#
Health

5 ข้อดี Cannabis ดูดอย่างพอเหมาะ ดีต่อสุขภาพ

5 ข้อดี Cannabis ดูดอย่างพอเหมาะ ดีต่อสุขภาพ “กัญชา” ถ้าเรารู้จักวิธีการนำมาใช้อย่างพอเหมาะ จะเกิดประโยชน์ เพราะพืชชนิดนี้มีคุณค่าสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพไม่น้อยเลย และนี้คือข้อมูลจากทีม GREENWIRE อ้างอิงจากการพูดคุยสอบถามไปยังผู้ประกอบการร้านขายกัญชาบางส่วน ในเขตพื้นที่กรุงเพทฯ ที่มีอยู่เกือบ 1,000 ร้าน พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ ได้ประโยชน์จากการใช้กัญชา ในโหมด 5 ข้อดีดังนี้ 1. นอนหลับง่ายขึ้น การนอนหลับยากสำหรับบบางคนเป็นเรื่องจุกจิกกวนใจ ในมุมของกัญชาก็พอจะช่วยทำให้มีทางเลือกในการแก้ปัญหาอยู่บ้าง เพราะกัญชามีฤทธิ์บางประการคล้ายยานอนหลับ แต่ไม่มีสารเคมีเจือปน จึงดีต่อร่างกาย ในทางการแพทย์มักนำมาใช้เพื่อช่วยเป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท แก้โรคเส้นประสาท ทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ไม่ทำให้คิดมาก ซึ่งเราก็อยากจะแนะนำ บานาน่า แฮมม๊อค (Banana Hammock) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บานาน่า แฮมม๊อค อาร์ 1” (Banana Hammock R1) เป็นกัญชาสายพันธุ์อินดิก้า ที่ให้ผลผ่อนคลายเป็นไนท์แคป (Nightcap) ก่อนนอนได้เป็นอย่างดี 2. ลดอาการซึมเศร้า เมื่อนอนหลับได้ง่ายขึ้น ลดการคิดมากให้น้อยลง ในกลุ่มของคนที่ค่อนข้างซึมเศร้าก็ช่วยได้ด้วยเช่นกัน กัญชาช่วยปรับระดับฮอร์โมนภายในร่างกาย สร้างให้เกิดความสมดุล ขณะที่กำลังเข้าถึงเนื้อแท้ของกัญชา จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกสดชื่น มีความสุข ใจเย็น ส่งผลต่อความรู้สึกด้านบวกภายในอารมณ์ ที่ไม่อยากให้พลาดควรลองคือ อะลิซอินวอนเดอร์แลนด์ (Alice in Wonderland) สายพันธุ์ซาติวาที่ให้ฤทธิ์เคลิ้มสุข มันช่วยให้ประสาทสัมผัสทำงานชัดเจนขึ้น มีคุณสมบัติทางด้านการบำบัดโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาการเจ็บป่วยจากความเครียดหรือโรคซึมเศร้า แต่มีหลักสำคัญที่ว่าต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป 3. รู้สึกเจริญอาหาร เมื่อพักผ่อนเพียงพอ มีระดับอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นสุข เรื่องอาหารการกินก็เพลินขึ้นไปด้วยได้ เพราะกัญชาช่วยทำให้เจริญ อาหาร หากดูดก่อนทานข้าวสักครึ่งชั่วโมง รับรองว่าอาหารมื้อนั้นออกรสชาติแน่นอน แม้ในทางการแพทย์ก็ดึงเอาข้อดีนี้ไปใช้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน ในกรณีของผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ป่วยโรคเอดส์ นิยมผสมกัญชาในอาหารให้ทาน ส่งผลช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน และกระตุ้นทำให้ทานอาหารได้ดีขึ้น ตัวเลือกอย่าง เบอร์รี่ ไวท์ (Berry White) หรือที่รู้จักกันในชื่อ บารี่ ไวท์ (Barry White) กัญชาสายพันธุ์ไฮบริด เสริมความรู้สึกหิว อยากอาหาร และเมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็ล่องลอยผ่อนคลาย 4. ไกลจากอัลไซเมอร์ มีงานวิจัยในต่างประเทศอ้างอิงไว้อย่างสนใจว่า กัญชามีสารสำคัญบางอย่างสามารถยับยั้งเซลล์เบต้าโปรตีน ไม่ให้ผลิตสารพิษ ที่เป็นต้นเหตุของการก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ จริงเท็จประการใด ทาง GREENWIRE ก็ไม่กล้าการันตี ไว้มีโอกาสเหมาะจะลงรายละเอียดแบบเต็มคอลัมน์ในภายหลัง แต่ที่ชัวร์แน่ ๆ เพื่อช่วยให้การทำงานเกิด Feelings สร้างสรรค์ และ โฟกัส ตรงจุด อยากแนะนำ เดอร์บันพอยซั่น (Durban Poison) เป็นซาติวาดั้งเดิม ให้ความสดใสคึกคักอารมณ์ดี ช่วยให้คุณมีพลังและความจำดีในวันที่วุ่นวาย เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมการงานในแต่ละวัน 5. สังคม มิตรภาพ ผ่อนคลาย เส้นทางสายเขียว มีมิตรภาพอยู่เสมอ เพราะกัญชาเป็นพืชวิเศษของคนทั้งโลก แม้สีผมต่างกัน ใช้ภาษาคนละภาษา แต่เมื่อมี Cannabis เป็นจุดเชื่อมโยง สร้างความผ่อนคลาย สร้างรอยยิ้ม มิตรภาพก็เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย แม้ผู้ประกอบการร้านค้ากัญชากับลูกค้าประจำ รวมไปถึงกลุ่มมอเตอร์ไซด์ผู้นำส่งแบบ Delivery สุดท้ายก็กลายเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นเคย สร้างสังคมแห่งมิตรภาพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เปิดช่องทางทำกินให้กับผู้คนอีกมากมาย และทางทีม GREENWIRE ก็จะขอเป็นส่วนขับเคลื่อนอีกหนึ่งทาง เพื่อสังคมแห่งมิตรภาพสายเขียวต่อไป
#
Cannabis 101

9 ข้อควรรู้ ใช้กัญชาอย่างมือโปร

หน้าใหม่หรือหน้าเก่า เพิ่งเริ่มใช้หรือใช้มานานแล้ว ไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญคือเพื่อนๆ รู้ถึงเทคนิคในการใช้กัญชากันแล้วหรือยังต่างหาก GREENWIRE ตั้งใจนำเสนอ ข้อควรรู้ 9 สิ่ง เพื่อให้เพื่อนๆ เข้าถึงเนื้อแท้แห่งวิถีสายเขียวอย่างมือโปร 1. รู้ตัวว่าใช้กัญชาเพื่ออะไร หากเพื่อนๆ เลือกใช้กัญชาโดยรู้ถึงเป้าหมายที่ตัวเองต้องการชัดเจน มันเป็นอะไรที่ Smart มากๆ เลย ถ้าโจทย์ตั้งต้นของทุกคนมาแนวประมาณว่า ใช้เพื่อความสงบผ่อนคลาย เพื่อลดความรู้สึกวิตกกังวล ลดการซึมเศร้า และเพื่อเข้าสังคมได้ง่ายขึ้น หรือลดอาการเจ็บปวดจากผลกระทบบางอย่างในการรักษาตัวทางการแพทย์ ถ้า Way มาทิศทางนี้ มั่นใจได้เลยว่าเพื่อนๆ มาถูกทางแล้ว 2. ขนาด ปริมาณ ในการใช้ ควรเริ่มต้นจาการดูค่าสาร THC ที่ไม่เกินกว่าร้อยละ 0.2 ในน้ำหนักรวม คือการให้ฤทธิ์อยู่ที่ประมาณ 20-30% กระทรวงสาธารณสุขได้เทียบปริมาณสาร THC ไกด์ไลน์ให้จำง่ายๆ ดังนี้ 1 mg = รู้สึกสบาย สงบ อยู่คนเดียวได้ กระชุ่มกระชวย ไม่หิว ไม่เหนื่อย 2-5 mg = ง่วง อยากนอน เคลิ้มสุข เบาตัว ล่องลอย ยิ้ม 5 mg ขึ้นไป = หัวใจเต้นเร็ว กระตือรือร้น อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ชอบหัวเราะ 3. เริ่มต้นจากน้อยและไปอย่างช้าๆ หากเพื่อนๆ ไม่เคยใช้มาก่อน แนะนำให้เริ่มต้นด้วยปริมาณที่น้อยแล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นไป จนรู้สึกได้ว่ามีฤทธิ์บางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเรา และเมื่อพอใจในผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จึงค่อยๆ พัฒนาปริมาณมากขึ้นได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นฐานของความเหมาะสม ซึ่งความเหมาะสมนี้สะท้อนได้จากอาการของร่างกายและอารมณ์ ที่ผู้ใช้กัญชารู้สึกได้เองว่าโอเคแล้วพอดีแล้ว 4. งดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เมื่อเพื่อนๆ ใช้กัญชาแล้ว แนะนำให้อยู่นิ่งๆ ไปสัก 1-2 ชั่งโมงเป็นอย่างน้อย ในบางรายที่เพิ่งเริ่มต้นอาจมีถึง 3-6 ชั่วโมง และไม่ควรโลดโผนไปกับกิจกรรมความเสี่ยงสูงใดๆ มากนัก อาทิ การขับรถ ขี่มอเตอร์ไซด์ หรือว่ายน้ำ 5. จำกัดความถี่ การได้รับสารจากกัญชาบ่อยๆ ก็เหมือนกับการใช้สารตัวอื่นๆ กล่าวคือ เมื่อเพื่อนๆ เริ่มอดทนต่อสารในกัญชาได้มากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือความต้องการเพิ่มปริมาณเพื่อให้ได้ฤทธิ์เท่าเดิมหรือมากกว่า และความถี่ในการใช้กัญชาก็จะกลายเป็นเงาตามตัว หากเพื่อนๆ ยังไม่แน่ใจว่าความพอดีในความถี่อยู่ตรงไหน ลองนำคำถามเหล่านี้ไปประเมิณตัวเองดู - การใช้กัญชาของเรา ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ การเรียน การทำงานหรือไม่? - การใช้กัญชาของเรา รบกวนความสัมพันธ์ต่อผู้คนใกล้ตัวหรือเปล่า? - การใช้กัญชาของเรา ส่งผลต่อเงินในกระเป๋าหรือยัง? 6. เก็บกัญชาในที่ปลอดภัย ควรอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่จำง่าย เก็บให้ไกลจากเด็กๆ และสัตว์เลี้ยง หากเกิดความผิดพลาดจากทั้งเด็กและสัตว์เลี้ยง ในกรณีได้รับสารเข้าไปอย่างไม่ตั้งใจ ให้รีบพาไปพบแพทย์หรือสัตว์แพทย์อย่างรวดเร็วในทันที 7. ใช้กัญชากับคนที่คุณไว้ใจ เป็นเรื่องที่ดีมากหากเพื่อนๆ ใช้กัญชากับคนที่เรารู้จัก ไว้วางใจ เพื่อความรู้สึกสบายใจ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประสบการณ์ที่ดี และเมื่อรู้สึกถูกกดดันให้ใช้มากกว่าที่เราพอใจ ให้หาวิธีที่สามารถพูดว่า “ไม่” ตัวอย่างเช่น “ไม่ล่ะ ขอบคุณ ฉันต้องขับรถกลับบ้านทีหลัง” หรือ “ฉันจะเริ่มจากสิ่งนี้และดูว่ามันจะเป็นยังไง” 8. หลีกเลี่ยงการแบ่งปัน อย่าให้เกิดลักษณะของ “Puff and pass” และอย่าใช้ บ้อง เครื่องพ่น หรืออุปกรณ์ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น การแบ่งปันกันอาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากโรคต่างๆ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือเชื้อโควิด ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากคนสู่คนผ่านทางน้ำลาย การแบ่งปันกับเพื่อนอาจหมายความว่า คุณกำลังได้รับค่า THC ในปริมาณสูงกว่าที่คุ้นเคยด้วยเช่นกัน 9. อย่า Mix จะดีกว่า การผสมสารตั้งแต่สองชนิดขึ้นไป อาจทำให้คาดเดาได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง หรือจะได้รับผลกระทบอย่างไร นอกจากนี้ สารสองชนิดหรือมากกว่าที่ใช้ร่วมกันอยู่ อาจส่งผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อนๆ ควรใช้กัญชาอย่างปลอดภัยโดยใช้เพียงทีละชนิดต่อครั้งในการดูด
#
Lifestyle

10 สิ่งสำคัญ นักท่องเที่ยวสายเขียวต้องรู้ เมื่อมาเยือนสยามเมืองยิ้ม

10 สิ่งสำคัญ นักท่องเที่ยวสายเขียวต้องรู้ เมื่อมาเยือนสยามเมืองยิ้ม โดยรวมอ่านแล้วจะจริงจังสักนิด แต่มีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อนๆ ทั้งผู้ใช้และผู้ประกอบการขายกัญชา รู้ไว้บ้างก็ดีนะ 1. ไม่อนุญาตให้นำเมล็ดหรือชิ้นส่วนของต้นกัญชาไปจากประเทศไทย เพื่อจุดประสงค์ส่วนบุคคล 2. การเพาะปลูกกัญชานั้นถูกกฎหมาย แต่จำเป็นต้องลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน "PLOOK GANJA" ขององค์การอาหารและยา หรือผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาล 3. การใช้ดอกตูมของกัญชาเพื่อการวิจัย ส่งออก ขาย และแปรรูปเพื่อการค้า ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ 4. บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ไม่มีสิทธิ์ใช้กัญชา ยกเว้นภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ 5. การครอบครองสารสกัดที่มี THC และ THC สังเคราะห์เกิน 0.2 ต้องได้รับอนุญาต 

6. อาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา มีให้บริการในร้านอาหารที่ได้รับอนุญาต

7. ผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อสุขภาพที่ผ่านการรับรอง สามารถเข้าถึงได้ผ่านช่องทางเฉพาะที่กำหนดไว้

8. การสูบกัญชาในที่สาธารณะ รวมไปถึงโรงเรียนและห้างสรรพสินค้า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย

9. หลีกเลี่ยงการขับรถหลังจากบริโภคอาหารหรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม
 10. ผู้ที่มีผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์จากการใช้กัญชา อันก่อให้เกิดความร้ายแรงต่อสุขภาพ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน GREENWIRE แนะนำให้เพื่อนๆ ทำ Art work ง่ายๆ แล้วนำทั้ง 10 ข้อนี้ไปใส่ไว้ จากนั้น Print ใส่กระดาษสวยๆ นำไปติดไว้ที่กำแพงร้าน แขกไปใครมาจะได้มีไว้อ่าน หากอยากได้ต้นฉบับภาษาอังกฤษ เชิญที่ลิงก์นี้ได้เลย https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/04/184046/
#
Health

10 สุดยอดสายพันธุ์กัญชา น่าสนใจสุดๆ ในปี 2023

การเข้าถึงเนื้อแท้ของสายเขียว เป็นความต้องการของผู้คนที่เลือกเดินสายนี้ ซึ่งมักจะมองหาสายพันธุ์อันยอดเยี่ยม ให้ประสบการณ์ที่น่าจดจำ ในปี 2023 โลกของกัญชายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คลื่นลูกใหม่ของสายพันธุ์ THC ที่น่าสนใจ เรียงคิวคอยแจ้งเกิดให้พวกเราได้ทดลองอยู่ตลอดเวลา ในบทความนี้ GREENWIRE จะนำเสนอสายพันธุ์กัญชาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2023 มาแชร์ให้ฟังกัน 1. Granddaddy Purple เป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของการบรรเทาความเครียดและความเจ็บปวดได้อย่างยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยรสสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความโปร่งโล่งสบายทั้งกายใจ ใช้ได้ดีกับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง นอนไม่หลับ และปัญหาเกี่ยวข้องกับความเครียด ระดับ THC อยู่ที่ 16-25% 2. Purple Punch ดึงดูดให้ผู้ใช้พบเจอประสบการณ์แปลกใหม่ ด้วยการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของรสชาติ กลิ่น และคุณประโยชน์ด้านการแพทย์ หากคุณกำลังมองหาช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายเงียบสงบ หลังจากช่วงวันเหนื่อยล้าอันยาวนาน Purple Punch เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ไม่ควรปล่อยผ่าน ระดับ THC อยู่ที่ 20-25% 3. Zkittlez ได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวาง สร้างประสบการณ์ยกระดับความร่าเริงเบิกบานของจิตใจ เนื่องจากเป็นลูกผสมที่ให้ความสมดุลระหว่างสายพันธุ์ Grape Ape และ Grapefruit ทำให้ Zkittlez ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบกัญชา เพราะให้ฤทธิ์กระตุ้นอารมณ์เชิงบวกสร้างสรรค์ความผ่อนคลาย ระดับ THC อยู่ที่ 17-23% 4. Gorilla Glue ตัวเลือกยอดนิยมแห่งความแข็งแกร่งและยาวนาน ผู้ที่ใช้และเข้าถึงเนื้อแท้ของ Gorilla Glue สามาถเพลิดเพลินกับเอฟเฟคได้ในระยะเวลาที่เนินนานกว่า อาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่สักเท่าไหร่ หากอยากลองก็ควรเริ่มต้นจากปริมาณน้อยๆ แล้วค่อยไต่ระดับขึ้นไป เพราะหากคุณผลีผลามอาจเจอกับของหนักที่ยากจะหลีกเลี่ยง ระดับ THC เกินกว่า 26% 5. Bruce Banner “Bruce Banner” ชื่อนี้ได้แรงบันดาลมาจากตัวละคร Incredible Hulk แห่งอาณาจักร Marvel เหตุเพราะให้เอฟเฟคทรงพลังแบบสุดโต่ง โดดเด่นในการเปลี่ยนแปลงตัวแปร ที่มีศักยภาพอย่างเหลือเชื่อเมื่อถูกจุดไฟ ให้พลังงานและเพิ่มความจริงจังในจิตใจ ช่วยให้คุณจัดการวันที่ยุ่งยากวุ่นวาย ด้วยพลังใจอันหนักแน่นแข็งแกร่ง ระดับ THC อยู่ที่ 25% 6. Ice Cream Cake เป็นลูกผสมที่สร้างขึ้นโดยการข้ามสายพันธุ์ระหว่าง Wedding Cake และ Gelato#33 เกิดเป็น ICC ขึ้นมาและพร้อมมอบความสมดุล ละมุน ผ่อนคลาย ทางร่ายกายและยกระดับจิตใจต่อผู้ใช้ นิยมในหมู่สาวๆ เพราะภาพจำของสายพันธุ์ ICC จะให้ดอกตูมหนาแน่น มีกลิ่นหอมหวาน ออกสีครีมเอิร์ธโทนเล็กน้อย ระดับ THC อยู่ที่ 19-23% 7. Mimosa Float สายพันธุ์ลูกผสมจาก Clementine และ Purple Punch เด่นที่กลิ่นหอมคล้ายผลส้ม จะช่วยยกระดับประสาทสัมผัสของคุณในทันที ลดภาวะความเครียดเปลี่ยนเป็นแจ่มใสมีชีวิตชีวา เพิ่มความคิดสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นศิลปินหรือเพียงต้องการเพิ่มแรงจูงใจให้กับอารมณ์ Mimosa Float ช่วยได้เสมอ ระดับ THC อยู่ที่ 25% 8. Girl Scout Cookies มีฤทธิ์ทำให้อารมณ์ดีและร่าเริง สายพันธุ์นี้เป็นผลมาจาก Durban Poison และ OG Kush เกิดการผสานระหว่างพันธุกรรม Indica และ Sativa อย่างสมดุล ฤทธิ์ของ GSC อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ผู้ใช้จำนวนมากรายงานถึงความรู้สึกมีความสุข การยกระดับจิตใจ และอารมณ์เชิงบวกโดยรวม ระดับ THC อยู่ที่ 25% 9. Do Si Dos ลูกผสมที่โดดเด่นของ Sativa นี้มักเป็นที่ต้องการของบุคคลที่กำลังมองหา การเพิ่มประสิทธิภาพภาวะโฟกัสของจิตใจ ถูกสร้างขึ้นโดยการข้ามสายพันธุ์ของ OG Kush และ Girl Scout ส่งผลให้ได้พันธุ์ลูกผสมที่มีศักยภาพ สามารถกระตุ้นการผ่อนคลายอย่างล้ำลึก และบรรเทาความตึงเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ระดับ THC เกินกว่า 27% 10. Animal Mint ควบรวมข้อดีของสายพันธุ์อย่าง Animal Cookies, Girl Scout Cookies, Blue Power และ Ruderalis เกิดเป็นส่วนผสมที่น่ารื่นรมย์ภายใต้ชื่อ Animal Mint เป็นที่รู้กันดีในหมู่สายเขียว ถึงประสบการณ์ของความสงบเงียบและบรรเทาความเครียดแก่ผู้ใช้ ผลความผ่อนคลายที่ได้รับเกิดขึ้นเร็วทันใจอย่างกับกดปุ่มรีโมท ระดับ THC อยู่ที่ 20-25% เสน่ห์ของกัญชายังคงอยู่เหนือกาลเวลาตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน หลังจากปี 2023 นี้ ยังมีอีกหลายๆ ประเทศ หมายมั่นปั้นมือผลักดันทำกัญชาถูกกฎหมายให้ได้ ตัวสายพันธุ์กัญชาเองก็มีความหลากหลายและน่าตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับพวกเราในฐานะผู้ใช้ผู้บริโภค จึงต้องรู้จักพิจารณาเสาะหาสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับตนเอง และใช้ประโยชน์จากกัญชาให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
#
Reports

10 อันดับเมืองใหญ่ ขึ้นทำเนียบใช้กัญชามากที่สุดในโลก

หลายพื้นที่ในหลายประเทศมีความต้องการตัวบทกฎหมายเพื่อควบคุมการใช้กัญชา เน้นถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทั่วโลก แต่จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้สหประชาชาติกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องเข้าถึงอัตราตัวเลขผู้ใช้กัญชาจากทั่วทุกมุมโลก ไว้เป็นฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการอ้างอิง หากอนาคตข้างหน้า มีการปรับโฉมกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาไปในทิศทางที่ต่างออกไป และนี่คือ 10 อันดับเมืองใหญ่ ที่มีจำนวนผู้ใช้กัญชามากที่สุด ณ ขณะนี้ อันดับ 1. นิวยอร์ก / สหรัฐอเมริกา มหานครนิวยอร์กมีผู้คนใช้กัญชามากที่สุดในโลกที่ 77.44 เมตริกตัน โดยมีพื้นที่ให้บริการบางส่วนเท่านั้น ที่ได้รับการรับรองอย่างถูกกฎหมายในการใช้กัญชาอย่างเสรี ในเรทราคาขายอยู่ที่ 10.76 ดอลลาร์ต่อ 1 กรัม เมืองแห่งนี้สามารถสร้างรายได้ 156.4 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากการเก็บภาษีกัญชา โดยเก็บภาษีในอัตราเดียวกันกับบุหรี่ อันดับ 2. การาจี / ปากีสถาน การใช้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมายในปากีสถาน แต่จาการสำรวจของสหประชาชาติ พบมีผู้ใช้กัญชาทั้งดูดและใช้เป็นยามากกว่า 4 ล้านคน การาจีเมืองใหญ่ของปากีสถานใช้กัญชาในภาพรวมกว่า 41.9 เมตริกตันต่อปี ในราคาขายที่ 5.32 ดอลลาร์ต่อ 1 กรัม ด้วยตัวเลขดังกล่าวสามารถทำให้เมืองนี้สร้างรายได้จากภาษีประจำปีประมาณ 135.4 ล้านดอลลาร์ แค่เพียงทำกัญชาให้ถูกกฎหมาย อันดับ 3. นิวเดลี / อินเดีย เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องราคากัญชาถูกที่สุดในโลก ที่ราคา 4.38 ดอลลาร์ต่อ 1 กรัม และเช่นเดียวกันนิวเดลีกำลังสูญเสียรายได้จากภาษีที่ควรจะเกิดขึ้นอย่างมากมายราวๆ 101 ล้านดอลลาร์ต่อปีเลยทีเดียว เพียงแค่มีกฎหมายออกมารับรอง ที่นิวเดลีมีผู้ใช้กัญชาคิดเป็น 38.26 เมตริกตันในปีที่ผ่านมา อันดับ 4. ลอสแองเจลิส / สหรัฐอเมริกา การใช้กัญชาได้รับการรับรองอย่างถูกต้องในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองลอสแองเจลิสมีร้านขายกัญชารายใหญ่มากถึง 156 แห่ง และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 46 แห่ง ในช่วงที่ผ่านมา ผู้ใช้กัญชาสายเขียวสามารถเดินหาซื้อได้ง่ายๆ ในทุกเส้นถนน การใช้กัญชาในเมืองนี้มีปริมาณสูงถึง 36 เมตริกตัน มีเรทราคาขายยืนพื้นอยู่ที่ 8.14 ดอลลาร์ ต่อ 1 กรัม อันดับ 5. กรุงไคโร / อียิปต์ เมืองหลวงของอียิปต์มีการใช้กัญชามากถึง 32.59 เมตริกตันต่อปี แม้ว่าจะมีราคาขายแพงอย่างมากที่ 16.15 ดอลลาร์ต่อ 1 กรัม ยิ่งไปกว่านั้นการใช้กัญชาในเมืองนี้ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จึงทำให้กรุงไคโรสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีมากถึง 385 ล้านดอลลาร์ไปอย่างน่าเสียดาย หากแต่เพียงพวกเขาสร้างข้อกฎหมาย และเรียกเก็บภาษีกัญชาในอัตราเดียวกันกับภาษีบุหรี่ อันดับ 6. มุมไบ / อินเดีย มุมไบคือเมืองที่คุณสามารถซื้อกัญชาได้ในราคาเพียง 4.57 ดอลลาร์ต่อ 1 กรัม ผู้คนในเมืองนี้ใช้กัญชา 32.38 เมตริกตันในแต่ละปี ซึ่งประเทศอินเดียอนุญาตให้ปลูกกัญชา เพื่อวัตถุประสงค์ในภาคส่วนอุตสาหกรรมและทางการแพทย์เพียงเท่านั้น และก็ยังเป็นเรื่องเดิมๆ ที่พวกเขาขาดโอกาสสร้างทุนทางการเงินมหาศาล เพียงแค่ออกกฎหมายรับรองการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง อันดับ 7. ลอนดอน / สหราชอาณาจักร ก็เหมือนกับที่อื่นๆ ลอนดอนยังไม่เปิดรับรองกฎหมายให้กับสายเขียว การใช้กัญชายังเป็นเรื่องผิด แม้เจ้าหน้าที่รัฐจะรู้ดีว่าภาษีต่อปีที่มาจากกัญชาจะมากถึง 237 ล้านดอลลาร์ เพียงแค่ทำให้กัญชาสง่างามเหมือนๆ กับอัตราภาษีของบุหรี่ ราคาขายกัญชาในลอนดอนต่อ 1 กรัม อยู่ที่ 9.2 ดอลลาร์ และเมื่อปีที่แล้วเมืองแห่งนี้ใช้กัญชามวลรวมทั้งสิ้นไปกว่า 31.4 เมตริกตัน อันดับ 8. ชิคาโก / สหรัฐอเมริกา ชิคาโกเป็นหนึ่งใน 3 เมืองหลักของอเมริกาที่มีผู้ใช้กัญชามากที่สุด ราคาขายต่อ 1 กรัมอยู่ที่ 11.46 ดอลลาร์ โดยประมาณในแต่ละปีการใช้กัญชามวลรวมอยู่ที่ 24.54 เมตริกตัน ที่สำคัญมีฟาร์มปลูกกัญชากว่า 10 แห่งอยู่ทั่วรัฐแห่งนี้ ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากภาษีประจำปีได้เกือบ 120 ล้านดอลลาร์ เพียงแค่ทำให้กัญชาถูกกฎหมาย อันดับ 9. มอสโก / รัสเซีย กัญชามีราคาแพงเอาเรื่องที่มอสโก เรทราคาอยู่ที่ 11.84 ดอลลาร์ ต่อ 1 กรัม แต่ราคาที่สูงไม่ได้ทำให้เมืองหลวงของรัสเซียหลุดจากท็อป 10 ไปได้ มีการใช้กัญชาในจำนวนมากถึง 22.87 เมตริกตัน และเหมือนๆ กับเมืองหลวงอื่นๆ มอสโกจะมีรายได้มากถึง 129 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากการเก็บภาษีการใช้กัญชาในอัตราเดียวกันกับภาษีบุหรี่ อันดับ 10. โทรอนโต / แคนาดา ในตัวเมืองโทรอนโตมีการรับรองการใช้กัญชาบ้างแล้วในบางพื้นที่ให้บริการ ราคาขายอยู่ที่ 7.82 ดอลลาร์ต่อ 1 กรัม ในแต่ละปีมีผู้ใช้กัญชารวมแล้วกว่า 22.75 เมตริกตัน หากแคนาดาอนุญาตให้ผู้คนในโทรอนโตใช้กัญชาได้อย่างเสรีและถูกต้อง และเรียกเก็บภาษีในอัตราเดียกันกับบุหรี่ยี่ห้อดัง เมืองแห่งนี้จะมีรายได้จากภาษีประจำปีถึง 124 ล้านดอลลาร์ จะเห็นได้ว่าหากมีการรับรองกฎหมายที่ถูกต้อง ในแต่ละหัวเมืองจากทั่วทุกมุมโลก สามารถจะมีรายได้ในการเรียกเก็บภาษีกัญชาเป็นจำนวนเงินที่น่าพอใจ และสามารถนำเงินดังกล่าวไปสร้างประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย จึงเป็นเหตุผลที่จะต้องสร้างมุมมองใหม่เกี่ยวกับการภาพรวมของกัญชา เพื่อให้เปิดกว้างมากขึ้น เหรียญมีสองด้านเสมอ เรื่องของกัญชาก็อยู่ในบริบทเดียวกัน
#
Lifestyle

20 เรื่องชวนยิ้มของกัญชา

ข้อมูลเหล่านี้ให้ความรู้สึกอมยิ้มดี เพื่อนๆ อาจจะเคยได้ฟังมาบ้างแล้ว แต่คงไม่ใช่ทั้งหมดแน่นอน 1. กัญชามีอายุย้อนกลับไปอย่างน้อย 12,000 ปี หมายความว่ากัญชาเป็นหนึ่งในพืชที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติ อ้างอิงจากหนังสือ Marihuana: The First Twelve Thousand Years โดย EL Abel 2. กัญชา คือสินค้าที่ขายผ่านออนไลน์ครั้งแรก กัญชามาก่อนกาลสักพักแล้ว แม้ว่าในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายและดูรุนแรง แต่นักศึกษาของ Stanford ได้สั่งซื้อกัญชาจากนักศึกษาของ MIT ผ่านระบบติดต่อภายในบางอย่าง นับเป็นการซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่ผู้ซื้อและผู้ขายไม่ได้เจอหน้ากัน เหมือนการขายออนไลน์ในทุกวันนี้ 3. เราสามารถกินกัญชาสดได้ เป็นเรื่องจริงปฏิเสธยาก เมื่อนำกัญชามาอยู่กับบราวนี่ ขนมปัง หรือ เค้ก เป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆ แต่กัญชาก็สามารถกินแบบสดๆ ได้ โดยหวังผลไปในรูปแบบที่เป็นยาบรรเทาอาการปวด 4. กัญชายุคใหม่ Strong สุดๆ ดอกกัญชาทรงอิทธิพลตั้งแต่ยุค 60 มีความบริสุทธิ์มากกว่า “hippie weed” บางชนิดที่นำเข้ามาจากอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย และการพัฒนาของ THC ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้ปริมาณสารที่เราได้รับจากกัญชา จะเข้มและแรงกว่ารุ่นปู่ย่าตาทวดในยุค 60 เป็นอย่างมาก 5. กัญชาแต่ละชนิดให้ผลต่างกัน THC ไม่เหมือนกับ CBD ซึ่งหมายความว่าประเภทกัญชาที่เพื่อนๆ เลือกใช้ จะมีผลต่อร่างกาย ความรู้สึก อารมณ์ ที่ต่างกันไป บางประเภทเป็นประโยชน์ให้ความผ่อนคลาย เคลิ้มสุข ล่องลอย ในขณะที่อีกบางสายพันธุ์โดดเด่นไปในเรื่องของทางการแพทย์ 6. กัญชามีชื่อเล่นมากมาย เนื่องจากสถานะที่ผิดกฎหมาย กัญชาจึงเป็นหนึ่งในกลุ่มพืชต้องห้ามที่มีชื่อเรียกมากมาย อาทิ วัชพืช, หม้อ, หญ้า, ห้องเย็น, แฮช หรือแม้แต่ แซนวิช หากใครเป็นแฟนของ How I Met Your Mother จะทราบว่าเป็นเพียงคำศัพท์แสลงไม่กี่คำ ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมกัญชาอันเป็นที่รัก  7. เชกสเปียร์รมควันกัญชา อาจเป็นที่มาแห่งแรงบันดาลใจของเชกสเปียร์ก็เป็นได้ มีการพบกัญชาตกค้างในบ้านของวิลเลียม เชกสเปียร์ เป็นไปได้ว่ากัญชาน่าจะมีส่วนบ้างไม่มากก็น้อย ในผลงานการเขียนบทละครและบทกวีของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ แห่งวงการวรรณกรรมอังกฤษท่านนี้ 8. บ็อบ มาร์เลย์ ถูกฝังด้วยหญ้า (อันเป็นที่รัก) นักดนตรีในตำนานผู้นี้ถูกฝังไปกับกีตาร์ Gibson สีแดงของเขา พร้อมต้นกัญชา และคัมภีร์ไบเบิล เปิดเพลงสดุดีด้วยบทที่ 23 ซึ่งมีข้อความว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ขาดสิ่งใดเลย ท่านทำให้ฉันนอนลงในทุ่งหญ้าเขียวขจี” เยี่ยมไปเลย มาร์เลย์ 9. จะผ่อนคลายหรือเติมพลัง กัญชาช่วยคุณได้ สายพันธุ์ Indica นั้นให้ความผ่อนคลาย สงบ เคลิ้มสุข มากกว่า ในขณะที่ Sativa ยกระดับอารมณ์ความรู้สึกภายในจิตใจ ให้เกิดความกระฉับกระเฉง ควรเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ถ้าลองผสมทั้งสองอย่าง เพื่อนๆ ต้องมั่นใจว่าเอาอยู่ 10. ไม่มีใครตาย เพราะใช้กัญชาเกินขนาด แต่เพื่อนๆ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด ว่าเราสามารถใช้กัญชาในปริมาณเยอะได้ จริงอยู่ที่บางรายอาจต่อกรกับสารในกัญชาได้เป็นอย่างดี แต่ในความเข้าใจที่ถูกต้อง การใช้เกินปริมาณควรผ่านการแนะนำจากแพทย์ ซึ่งเท่ากับว่าการใช้กัญชาเกินขนาดไม่สามารถที่จะฆ่าใครตาย 11. กัญชามีสาร Cannabinoids มากว่า 100 ชนิด ในความเป็นจริงมีมากถึง 120 รายการ แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุด (เพื่อนๆ ก็พอจะเดาได้) THC , CBD และ CBG 12. ลอสแอนเจลิส เมืองแห่งกัญชา ลอสแอนเจลิสนอกจากจะเป็นเมืองแห่งดวงดาวแล้ว รัฐแห่งนี้มีร้านจำหน่ายกัญชามากกว่าร้านสตาร์บัคส์เสียอีก ยินดีต้อนรับสู่ Weed Wonderland 13. แคลิฟอร์เนียถูกแบนก่อน หนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งการ์ดชัดเจนไม่รับกัญชาและสายเขียว ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าขันเล็กๆ เมื่อเราเพิ่งผ่านความสนุกจากด้านบนลงมา แต่ดูเหมือนว่า Cali จะได้เรียนรู้บทเรียนของพวกเขาแล้ว 14. กัญชา เดินหน้าสู่ความเป็นอุตสาหกรรมได้ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเสื้อผ้า หรือ พลาสติก และในส่วนที่ดีที่สุดกัญชาเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า 15. กัญชากับผู้สูงอายุ เป็นอะไรที่ลงตัว ในกลุ่มผู้สูงอายุ กัญชามอบความผ่อนคลายเกี่ยวกับวิธีการรักษา บรรเทาความเจ็บปวดในโหมดธรรมชาติที่สุด กัญชายังอยู่ในโปรแกรมเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ทั้งในตอนนี้และต่อไปในอนาคต 16. กัญชามีประโยชน์ทางยา เป็นข้อมูลที่ใครๆ ก็ทราบ และบอกต่อกัน หัวข้อนี้ขอผ่านแบบเร็วๆ เลยแล้วกัน 17. กัญชาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเบียร์ เบียร์ฮอป (hops) เป็นไม้ดอกตระกูลเดียวกับกัญชา รูปทรงแลดูคล้ายกัน และตอนนี้เรารู้แล้วว่าทำไมทั้งคู่ถึงสามารถนับญาติ กันได้ 18. อุรุกวัยรู้อนาคต ในปี 2013 อุรุกวัยเป็นประเทศแรกของโลก ที่ทำให้การปลูก ขาย และ ใช้กัญชาเสรี ถูกกฎหมาย 19. สหรัฐอเมริกาดินแดนแห่งสายเขียว จากข้อมูลของ Civilized Life สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ผลิตกัญชาอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก รองลงมาคือ โมร็อกโก อัฟกานิสถาน เม็กซิโก และโคลอมเบีย 20. จอร์จ วอชิงตัน ปลูกกัญชา ชัวร์หรือมั่วนิ่ม? ถูกต้อง... ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาปลูกป่าน ฟาร์มของเขาที่ Mount Vernon เน้นปลูกป่านเพื่อนำมาทำกระดาษ เชือก ผ้าใบสำหรับแล่นเรือ เสื้อผ้า และ อวนจับปลา แต่ก็มีกระแสหยอกล้อเป็นมุขตลกร้ายที่ว่า วอชิงตัน น่าจะปลูกกัญชงในฟาร์มของเขาด้วย จริงเท็จประการใดไม่อาจทราบได้ หากเพื่อนๆ คนไหนมีข้อมูล ก็นำมาแชร์ให้กับพวกเรา GREENWIRE ด้วยนะครับ
#
Reports

Meta ผู้ดูแล Facebook ไฟเขียวโฆษณา CBD แต่ยังคงคุมเข้มอยู่

Meta แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่โลกโซเชียลมีเดีย เจ้าของ Facebook และ Instagram ได้ปรับปรุงนโยบายการโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์กัญชา และ CBD โดยนโยบายใหม่อนุมัติให้มีการส่งเสริม CBD ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา ตามประกาศของ Meta อย่างไรก็ตาม... Meta ยังคงแบนการโฆษณา “ส่งเสริมหรือเสนอขายผลิตภัณฑ์ THC หรือผลิตภัณฑ์กัญชา ซึ่งมีผลต่อสภาวะอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้” จากนโยบายฉบับเต็ม Meta ให้คำแนะนำในเอกสาร เป็นการไกด์ไลน์สำหรับผู้โฆษณาในสหรัฐอเมริกา ว่าสามารถโปรโมตหรือเสนอ ขาย "ผลิตภัณฑ์ CBD ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย" แต่ต้องได้รับการรับรองโดย LegitScript และได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Meta (ปัจจุบัน LegitScript รับรองเฉพาะผลิตภัณฑ์ CBD ที่ไม่สามารถกินได้) เพียงเท่านั้น “คุณได้รับอนุญาตให้ความรู้ สนับสนุน หรือประกาศบริการสาธารณะเกี่ยวกับ CBD และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตราบใดที่โฆษณาของคุณ ไม่ส่งเสริมหรือเสนอผลิตภัณฑ์ต้องห้ามสำหรับการขาย” เอกสารรายละเอียดของ Meta ให้ข้อมูลเพิ่มเติม Meta ยังเน้นย้ำด้วยว่าการโฆษณาสำหรับ CBD หรือผลิตภัณฑ์จากกัญชาต้องไม่รวมถึง “การกล่าวอ้างใดๆ ในการรักษา การป้องกัน บรรเทา วินิจฉัยโรค หรือสภาวะทางการแพทย์ในมนุษย์หรือสัตว์” นโยบายดังกล่าวของ Meta เกิดขึ้นหลังกจากที่ Twitter ประกาศผ่อนปรนกฎการโฆษณาในอุตสาหกรรมกัญชาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่ง Twitter ไม่เหมือนกับ Meta ตรงที่ Twitter อนุญาตให้มีการโฆษณาส่งเสริมผลิตภัณฑ์ THC ในขอบเขตที่รับได้ แม้กระทั่ง Google เอง ในบางกรณีก็ยังลดข้อจำกัดบางประการ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นสำหรับโฆษณากัญชาและ CBD
#
Reports

Thailand เจ๋งสุดๆ ประเทศแรกในเอเชีย ทำกัญชาให้ถูกกฎหมาย

แม้เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่วิถีแห่งสายเขียวได้ผลิดอกแล้วในแผ่นดินขวานทอง ทำให้เรากลายเป็นเบอร์แรกลำดับที่หนึ่งในเอเชียไปโดยปริยาย และมีการคาดการณ์จากสื่อต่างประเทศหลายสำนัก ชี้เป้าไปในทางเดียวกันว่าประเทศไทยสามารถกระตุ้นอุตสาหกรรมสายเขียวได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ หลักจากผลักดันกัญชาให้ถูกกฎหมายได้ แต่การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ทั้งผู้ใช้และผู้ประกอบการ ต้องอยู่ภายใต้กฎข้อบังคับของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ในภาพรวมเลยประมาณว่าประเทศไทยอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เป็นหลัก หากนักท่องเที่ยวมาเพื่อการรักษาพยาบาลหรือมาหาผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ก็ไม่ใช่ปัญหาสยามเมืองยิ้มไฟเขียวเสมอ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมกัญชาในท้องถิ่น มีการแจกต้นกัญชา 1 ล้านต้นให้ผู้คนนำไปปลูกไว้ที่บ้าน โดยควบคุมจำกัดสาร THC ไว้ไม่เกิน 0.2% ซึ่งเป็นส่วนผสมออกฤทธิ์ทางจิตที่ทำให้เมาได้ ใครก็ตามที่ปลูกพืชสีเขียวไว้ที่บ้าน จะต้องลงทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาผ่านแอป “Plant Ganja” ของรัฐบาล ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นส่งผลมีการปล่อยตัวนักโทษประมาณ 3,000 คน ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดเกี่ยวกับกัญชาก่อนหน้านี้ การขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครอง กัญชาและกระท่อม ให้สิทธิเฉพาะ 1. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือการเรียนการสอนวิชาด้านการแพทย์ และ เกษตรศาสตร์ 2. หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ป้องกัน ปราบปราม และแก้ปัญหายาเสพติด หรือสภากาชาดไทย 3. ผู้ประกอบวิชาชีพเครือข่ายแพทย์ ทั้งไทย และหมอพื้นบ้าน ตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด 4. สถาบันอุดมศึกษาที่ศึกษาและวิจัย และเรียนด้านการแพทย์ 5. ผู้ประกอบอาชีพเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมาย 6. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 7. ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาเสพติดติดตัว 8. ผู้ขออนุญาตที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบ ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับอนุญาตสามารถส่งต่อให้กับทายาทหรือผู้ได้รับความยินยอมได้ กรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตเสียชีวิตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ อย่างไรก็ตาม... รัฐบาลไทยยังไม่มีท่าทีในการประกาศแผนการใดๆ อย่างชันเจน ที่จะควบคุมหรือดำเนินการตรวจสอบไปถึงบรรดาผู้ปลูกไว้ในบ้าน รวมไปถึงการนำไปใช้เพื่อเสพหรือกินอย่างไร เพราะหากอยากทำกระบวนการนี้ให้เกิดขึ้นได้ จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่และงบประมาณอีกไม่น้อย สถาบันกัญชาทางการแพทย์ ก็ขยับตัวออกมาเตือนชาวสายเขียวหลังจากกัญชามีความเสรี “กัญชาถ้าใช้ไม่พอดี อาจมีโทษมากกว่าคุณประโยชน์ การตอบสนองต่อการใช้กัญชา แปรผันไปตามขนาด ปริมาณ และตัวบุคคล ซึ่งแต่ละคนมีการตอบสนองต่อสารในกัญชา เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกายแตกต่างกันไป เมื่อใช้กัญชาแล้วภายใน 6 ชั่วโมง ไม่ควรขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรต่างๆ หากมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ให้ดื่มน้ำมากๆ หากมีอาการมึนเมา ให้ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง” สิ่งที่สำคัญทางทีม GREENWIRE มองว่า “กัญชาเสรี” ต้องไม่เป็นเพียงประโยชน์สำหรับคนบางกลุ่ม ด้วยเหตุผลเม็ดเงินอันมหาศาลอาจเปลี่ยนบริบททั้งหมดไปได้ หากภาครัฐไม่บริหารจัดการแบบโปร่งใสชัดเจน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง